การเลือกผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือแดง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเริ่มตั้งแต่วิธีการเพาะปลูก ซึ่งต้องได้รับการเพาะเลี้ยงใน
สภาวะที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องความชื้น แสงสว่าง และสารอาหารที่ได้รับ ขณะเดียวกันขั้นตอนการแปรรูปก็เป็น
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะถือเป็นกระบวนการที่จะสกัดสารโพลีแซคคาไรด์จากตัวเห็ดเองออกมาให้ได้มาก
ที่สุด รวมทั้งการบรรจุภัณฑ์ก็ควรเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันความชื้นได้ดี เพื่อป้องกันเห็ดหลินจือแดงขึ้นรา
เนื่องจากเห็ดหลินจือแดงค่อนข้างไวต่อความชื้น
เห็ดหลินจือแดงปลอดสารพิษ สายพันธ์ G2 เป็นสายพันธ์ที่ให้สารสำคัญสูงที่สุดในบรรดาเห็ดหลินจือ
ทั้งหมด และยิ่งปลูกในเมืองไทยสารสำคัญจะยิ่งสูง สูงกว่า หลินจือที่มาจาก เกาหลี จีน หรือญี่ปุ่น เพราะเป็น
สายพันธ์ที่ต้องการอากาศแบบเมืองไทย อุณภูมิที่จะเจริญเติบโตดีที่สุดและจะให้สารมากสุดจะอยู่ที่ 25-30
องศา ซึ่งเป็นอากาศในบ้านเรา อีกทั้งยังเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ปลูกในโครงการหลวงสวนจิตรลดาอีกด้วย
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต
ในทุกขั้นตอน ด้วยความพิถีพิถัน ตั้งแต่กระบวนการเลือกวัตถุดิบในการทำก้อน ไปจนถึง
กระบวนการผลิต เราใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการทำเพื่อ
ให้ได้เห็ดหลินจือแดงปลอดสารพิษ สารอาหารสูง เห็ดหลินจือแดงจาก มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Polysaccharide) ที่สูงมากถึง 90%ป้องการเซลล์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเราพิถีพิถันในการเก็บเห็ดหลินจือในระยะที่ให้สารอาหารสูงสุดคืออยู่ในช่วง 60-90 วัน ซึ่งในทางกลับกันถ้าเราเลือกเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากนี้ แม้ว่าจะได้เห็ดหลินจือแดงดอกใหญ่ แต่
ภายในนั้นสารอาหารที่อยู่ในเห็ดจะลดลงถึง 50%